วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

LA


กลับมาที่ Los Angeles

มาหาป้ากฤตอีกรอบ คราวนี้เริ่มเชี่ยวแระ


เริ้มต้นจากบ้านป้ากฤต ที่นี่
ป้ายหน้าอพาร์ทเมน


รอบนี้เลยขอป้ากฤตไปเที่ยวกันเอง 3 คนเรย
นั่งรถบัสไปเที่ยวในเมืองเกือบจะทัวร์รอบเมืองแล้ว

วันแรกนั่งรถบัสไปเที่ยว beverly hills
โอ้วพระเจ้า

หรูหรามากมาย ถ่ายรูปมาตรึม แต่ว่ารูปหายจากกล้องไปหมด ไม่รู้เพราะอะไร
สงสัยต้องกลับไปแก้ตัวอีกรอบนึง หุหุ

จากนั้นพวกเราก็นั่งรถบัสต่อไป UCLA แล้วก็ไปที่ Santa monica pier

รูปก็หายไปไหนอีกก็ม่ายรู้

แต่ถ่ายรูปมานิดเดียวเพราะว่าหนาวมากกกกกก และก็ลมแรงมักมัก

วันต่อมาวันนี้ยกให้ทั้งวัน ไปเที่ยว Universal Studio


วันนี้แหละที่รูปไม่หายแล้ว ฮ่าๆๆ

ที่นี่มีของชอปปปปมากมาย

แล้วก็มีขนมที่อร่อยมาก แต่เลี่ยนอะ

เห็นคนเมกาเค้ากินกันคนละอัน

เรานั่งกินกัน 3 คน ยังไม่หมดเรย

แล้วก็มีขนมโปรดอีกอันคือ dipping dot

โคตรจาอร่อยอะ แต่แพงมักมัก

เพราะมันหมดเร็ว
ใน universal ก็ดีนะ มีพาทัวร์กองถ่ายด้วย

มีฉากต่างๆแปลกๆ
แล้วก็มีน้ำท่วมด้วย
อันนี้ชอบมากๆๆ

เจ๋งโคตร พวกเราชอบมากๆๆ
ทำบัตรปี เลยได้มาเที่ยวที่นี่ 3 วัน
เที่ยวจนเบื่อไป 1 ปี

และอีกวันก็ไปเที่ยวที่ long beach วันนี้นั่งรถไฟยาวลงมาถึงทางใต้


วิวสวยมากกก


อันนี้มีรูปมาฝากด้วยนะ

เที่ยวกันซะคุ้มเลย
เวลาอันแสนสุขก็หมดไปอย่างรวดเร็ว...

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Chicago tour

หลังจากที่ว่างจากงานเคเทอริ่ง
พวกเราสามหน่อก็จะไปท่องเที่ยวโดยอาศัยพี่รถบัสกะพี่รถไฟ ในการเดินทางไปเที่ยวในแต่ละที่
แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าเพื่อนที่ทำงานกะลุงเซียร์ ชื่อพี่ลภ จะคอยเป็นสารถีขับรถพาพวกเรา 3 คนไปเที่ยวที่ต่างๆ มากมายจนจำไม่ได้ พาไปกินข้าวร้านอาหารไทยหลายๆร้านที่ชิคาโก

พาไปเที่ยวริมทะเลสาปมิชิแกน
น้ำทะเลสาปกเหมือนๆกะบ้านเราแหละ
เหมือนว่าทรายที่นี่เค้าเอามาถมเองนะ
แล้วก็มีโซนให้สุนัขวิ่งเล่นด้วย



แล้วก็ยังมีที่พี่ลภพาไปสวนสัตว์ Lincoln Zoo Park ชอบมักมัก มีอะไรแปลกๆกว่าที่เมืองไทยเยอะ
ได้จับแพะด้วย เชื่องมากกกกกกกก




สัตว์ในสวนสัตว์ก็มีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ แล้วก็บรรยากาศรอบๆปาร์คก็สวยงามมาก
วิวสวย อากาศดี เหมือนอยู่ไร่องุ่น อากาศปลอดโปร่ง เห็นดาวน์ทาวน์สูงเด่นมากมาก
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เรายังได้ไป China Town มาอีกด้วย

เหมือนอยู่ในเมืองจีนมักมัก เกือบทุกรัฐในเมกา
จะต้องมีไชน่าทาวน์ตั้งอยู่
อาหารที่ไชน่าทาวน์มีร้านนึงอร่อยมากกแต่จำชื่อร้านไม่ได้แล้ว อิอิ


ยังไม่พอพวกเรายังได้ไปเที่ยวผับด้วย
ฮ่าๆๆ อันนี้ไม่มีคำอธิบายใดใด
อายุก็ยังไม่ถึง หุหุ
ก็ฉ้านจาเข้า
เสียดายที่อดเข้า 1 ผับ ที่ดังที่สุดในชิคาโก
เพราะว่า ใส่รองเท้าไม่สุภาพ...
แล้วที่บ้านป้ามีมี่ก็ยังมีการจัดปาร์ตี้บ่อยๆ ว่างๆก็ปาร์ตี้ เบื่อๆก็ปาร์ตี้
จนน้ำหนักตัวฉ้านระเบิดดดดดด ตู้ม
กิน เล่น เที่ยว ทำงานนิดเดียว จนครบ 2 เดือนเต็ม

Catering IN Chicago

Catering บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงาน
เริ่มงานเคเทอริ่ง ประสบการณ์นี้แปลกใหม่สุดๆๆยิ่งกว่างาน housekeeping ซะอีก

เริ่มจากการแต่งตัวมาดูกันว่าแต่ละคนแต่งตัวกันเป็นอย่างไร
ครั้งแรก โอ้วววว้าววว งานดูสวยหรูมากมายหน้าที่ที่ต้องทำก็คือจัดโต๊ะอาหารเพื่อเตรียมตัวต้อนรับแขกที่จะมา
เสิร์ฟอาหารต่างๆๆ รวมไปถึงน้ำ กาแฟ และไวน์
ตรงที่ทรหดที่สุดคงจะเป็นตอนยก tray เขียนถูกปะเนี่ย
มานก็คือถาดใส่อาหารที่หนักมากชนิดหนึ่งนี่เอง
ขอบอกว่าโคตรหนัก ยกเทรอย่างเดียวก็แทบจะไม่ไหวแล้ว
ยังจะต้องใส่อาหารเข้าไปอีก โอ้ววววว ม่ายนะ ครั้งแรกที่ยกนี่ถึงกะผงะ เทรเกือบจะคว่ำ
แขกที่มางานเค้าถามพวกเราว่าพวกเราอายุถึงแล้วหรอ ฮ่าๆๆ หน้าเด็กเป็นต่อ...
ก็มั่วๆๆไปจริงๆๆแล้วขาดไปนิดนึงม่ายกี่เดือน แต่ฝรั่งคิดว่าขาไปหลายปีได้
ม่ายมีรูปตอนที่ทำเคเทอริ่งเพราะว่างานยุ่งมากมายยย
มีแค่รูปที่เตรียมตัวอยู่ที่บ้านแล้วก็รูปตอนที่กำลังจะไปทำงานกะป้ามีมี่นะจ๊ะ
รูปนี้ไปที่เชดด์ อควาเรียม วิ่งกานสุดชีวิต
เพราะไปช้ามัก...

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บ้านที่แสนอบอุ่น

เช้าแล้ว ว้า หลับไปตอนไหนก็ม่ายรู้
ตั้งแต่ที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านป้ามีมี่ ไม่รู้ทำไม ทำไมไม่รู้สึกกลัวป้ามีมี่เลย ทั้งๆๆที่ไม่เยรู้จักกันมาก่อน
แถมรู้จักผ่านเพื่อนอีกต่างหาก
ที่บ้านหลังนี้มีป้ามีมี่ ลุงเซียร์ซึ่งเป็นแฟนของป้า(เป็นคนไทยเหมือนกาน) แล้วก็ลูกของป้ามีมี่ ที่พวกเรามะค่อยจรู้จักสักเท่าไร
เพราะว่าเค้าจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ข้างบนชั้น 2 พวกเราอยู่ชั้น 1 กะห้องใต้ดิน แระก็มีพี่คนไทยอีก 1 คนคือพี่โก๋
นี่คือบ้านที่พวกเรามาอยู่กะลุงและป้า
จริงๆๆแล้วป้ามีมี่ก็เช่าบ้านหลังนี้อยู่เหมือนกานไม่ได้ซื้อเอาไว้
คงอาจจะต้องย้ายบ่อยๆเลยไม่อยากซื้อก็เป็นได้
บ้านนี้ทำเลดีมากถึงแม้ว่าจะอยู่ทางใต้ของชิคาโกแต่ว่าเดินออกจากบ้านไปไม่กี่นาทีก็เจอซุปเปอร์มาเก็ตตั้งหลายแห่ง
มีของให้ชอปปิ้งทุกวัน แถมบางสัปดาห์มีโปรโมชั่นพิเศษลดแลกแจกแถม
ขอบอกว่าถูกกว่าเมืองไทยอีก ฮ่าๆๆ
ชีวิตยึดติดกับการชอปปิ้ง ++++

ทุกวันตอนเช้าส่วนใหญ่ป้ามีมี่หรือลุงเซียร์จะทำอาหารให้พวกเรากินเสมอ
เพราะผีมือของลุงกะป้าทำอาหารไทยได้อร่อยมาก (ถนัดกันคนละเมนู)
พวกเราก็เลยได้กินอาหารอร่อยทุกๆวัน
ถ้าวันไหนว่างๆๆอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เราก็จะมีปาร์ตี้เล็กๆๆน้อยกัน ทำอาหารด้วยกัน
อาหารส่วนใหญ่ก็อย่างเช่น ไก่ย่าง (อร่อยกว่าที่เมืองไทย อันนี้แพรคอนเฟิร์ม)
ส้มตำ ลาบ ยำวุ้นเส้น อารัยประมาณนี้
ตบท้ายด้วยเค้กเค้กเค้ก วัตถุดิบทุกประเภทหาได้
จากซุปเปอร์มาเก็ตแถวบ้านนั่งเอง
มีทุกอย่างให้คุณเลือกสรร

แฮปปี้มากๆๆ ความสุขดี ความสุขดี อยู่กะป้ามีมี่ อิอิ
................................................................................................
อยู่ได้ 1 สัปดาห์เริ่มตัดสินใจไม่กลับบ้านแล้ว ทั้งๆๆที่คนที่เมืองไทยก็เป็นห่วงกันมากมาย
อยู่ดีๆก็มีปัญหาระลอกใหม่อีก เพราะทางโรงแรมแจ้งไปว่าพวกเราลาออกจากโรงแรมแล้ว
ทางตัวแทนของที่เมกาเลยบอกว่าให้เราหางานทำให้ได้ ถ้าหาไม่ได้จะส่งกลับเมืองไทย
โอ้วว สภาพแรงงานกะเหรี่ยงกลับมาอีกแล้ว
ปัญหารุมเร้า ~_~
ทำไงดี จนปัญญา ป้ามีมี่พาไปหางานทำที่ร้านอาหารไทยตั้งหลายที่แต่ก็ไม่ได้
เพราะว่าเวลาที่จะทำงานมันก็เหลือแค่ 2 เดือนกว่าๆๆเท่านั้น
ซวยละตู......
ป้ามีมี่เลยช่วยฝากพวกเรา 3 คนไปทำเคเทอริ่ง ตอนแรกก็งงว่ามานคืออะไร
พอไปลองทำงานก็ถึงบางอ้อ เป็นอย่างงี้นี่เอง จะเป็นยังไงเด๋วมาดูกัน

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Chicago O' Hareeeee

ถึงสนามบินนน อย่างปลอดภัย
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดก็โถมเข้ามาอีกรอบ
ตั๋วเครื่องบินมานต้องเปลี่ยนยังไงหล่ะหว่า ทำยังไงดี ไปคุยกะเจ้าหน้าที่สายการบิน EVA AIR ดีกว่า
แป่ว พูดอาราย แร๊ฟมักมัก บอกให้พูดช้าๆๆก็ม่ายพูด เจ๊อยากตายยยยยยย
ทำไงดีๆๆๆๆๆ โทรกลับมาเมืองไทยให้เซลล์ที่นี่เค้าเปลี่ยนตั๋วให้ดีกว่า
ตู๊ด...........
ตู๊ด.................
ตู๊ด...........................
ตรึงอีกรอบ บรรยากาศมาคุเริ่มมาเยือน ทำไมไม่คนรับโทรศัพท์
นึกได้อีกที ถึงบางอ้อเรยยดีกว่า วันนี้เป็นวันสงกรานต์ สนุกสนานกันแบบไทยๆๆ
หยุดทำการชัวร์ หมอรักฟันธง
ซีดแล้ว ทำไงดี ไม่สามารถ คุยก็ม่ายรู้เรื่อง
เฮ้อจนปัญญา สุดท้ายก็หน้าด้านเดินไปขอให้ฝรั่งช่วยพูดให้หน่อย
เธอใจดีมากกกกกกกเป็นชาวแคนาดา เธอช่วยคุยกะทางสายการบินให้เป็นชั่วโมงๆๆๆ
ไม่บ่นพวกเราซักคำแถมยังคอยให้กำลังใจเราอีก
ในที่สุดแหม่มแคนาดาก็กลับมาพร้อมคำตอบว่าสายการบินไม่สามารถเปลี่ยนตั๋วได้เนื่องจาก
เซลล์ที่ไทยเป็นคนดำเนินการ ดังนั้นถ้าต้องการเปลี่ยนรอบการเดินทางต้องติดต่อโดยตรงกะทางเซลล์
..
...
....
แงงงงงง ทำไงดี หมดปัญญา จานอนที่ไหนดี กลับก็กลับไม่ได้
นี่ครั้งแรกกับการเดินทางมาต่างประเทศนะเนี่ย
นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนที่โรงแรมเค้ามีป้าที่รู้จักอยู่ที่ชิคาโก
ทำไงดี อ้า ไปเล่นเน็ตจาได้ติดต่อกะคนที่โรงแรมได้
เพื่อนๆๆที่โรงแรมก็ดีมาก ช่วยกันสารพัด จนได้เบอร์นี้มา ป้ามีมี่ xxxxxxx

รีบเลยโทรศัพท์สาธารณะกดไม่ยั้ง ปรากฎว่าม่ายมีคนรับ แป่วๆๆๆ โทรไปประมาณ 15 ล้านรอบได้
ก็ยังคงไม่มีคนรับ กลับสู้สภาวะท้อถอย
ไปนั่งงิดทำตัวล่องลอย
เฮ้อครั้งสุดท้ายที่จะพยายาม เลยขอยืมโทรศัพท์ฝรั่งคนข้างๆเพราะหมดแรงเดินไปโทรแระ ก็ยังคงเหมือนเดิม
ฝรั่งคนที่นั่งข้างๆเธอกำลังรอเครื่องรอบถัดไปเหมือนกานคงต้องรอถึงพรุ่งนี้ เพราะเธอตกเครื่อง
พวกเรา 3 คนก็นั่งห่อเหี่ยวหมดแรงอยู่ข้างๆๆเธอ
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแล้วเธอก็รับพูดกันสัก 2-3 ประโยค เธอก็ส่งมาให้พวกเรา 3 คน
ป้ามีมี่โทรกลับมา พระเจ้าช่วย ชีวิตเหมือนได้เกิดใหม่
ป้ามีมี่คุยกะพวกเราได้สัก 3 นาที เธอก็บอกว่าเด๋วจะมารับที่สนามบิน
ดีใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อป้ามีมี่มาถึงมารับพวกเราแล้วเธอก็พากลับไปที่บ้าน
ป้ามีมี่ใจดีมากดูแลทุกอย่างเตรียมที่นอนหาขนม ข้าวให้กิน
ซึ้งใจมัก จนหลับไปโดยไม่รู้ตัว...

Wisconsin แล้วจร้า

โอ้แม่เจ้า โรงแรมที่มาทำงานมานช่างอยู่ห่างไกลดาวน์ทาวน์ขนาดนี้เชียวหรือ
ถ้าเดินไปในเมืองนี่ถึงกับตายได้เรยนะเนี่ย
การผจญภัยทั้งหลายแหล่ได้เริ่มขึ้นที่โรงแรมแห่งนี้นี่เอง

Chula Vista Resort

เรา 3 คน ดันได้ทำงาน housekeeping ฮ่าๆๆ กับครั้งแรกในชีวิต
แรกๆมานก็โอนะของแปลก
แต่ที่แปลกยิ่งกว่าคือตำแหน่งแม่บ้านเนี่ยมะมีเบรกให้กินอาหารกลางวัน
ไงหล่ะ ตายแน่คราวนี้ ครายจะไปทนได้ให้ทำงานถึง 4 โมงเย็นมะมีพักให้กินข้าว
ผอมโซอะ น้ำหนักลดฮวบ

ช่วงที่ไปถึงหิมะไม่ตกแล้วเหลือแค่เกล็ดน้ำแข็งๆเกาะตามต้นไม้ ว้าอดเห็นเรยย เซ็งมัก
แต่ไม่นานผ่านไป 2 สัปดาห์อยู่ๆๆก็มีหิมะตกหนักมากกก
เลยเก็บภาพมาให้ดู ครั้งแรกกับการสัมผัสหิมะ

ตอนแรกกะว่าจะเอาเฮลบลูบอยไปราดแล้วแจกช้อนคนละคันนั่งกินกัน ฮ่าๆๆ
มีเพื่อนๆๆที่ไปเวิร์คมาเล่นด้วยตั้งหลายคน เล่นกันอย่างเมามัน
จนลืมไปว่าอากาศมันหนาววว...
หลังจากนั้นนนนนน
ปัญหาก็เกิดขึ้นจากต๋อมเพื่อนรัก ฮ่าๆๆ เผา
อยู่ดีไม่ว่าดีมานก็ดันมีปัญหากับน้ำยาล้างห้องน้ำ
สงสัยคงจะแพ้อย่างแรง มือเริ่มแตกๆๆๆเลือดไหล
ไม่ได้การ ต๋อมก็เลยไปขอเปลี่ยนงานเป็นอย่างอื่นแทน
แต่คนที่จัดการม่ายยอม
ทำไงหล่ะทีนี้ ประท้วงแม่งเลย ม่ายไปทำงาน
ต๋อมมานก็นั่งๆนอนๆอยู่ที่ห้อง
แล้ววันนึงก็มีจดหมายมาสอดหน้าประตูห้องมีเนื้อความว่า คุณต้องออกจากห้องเช่าภายใน 3 วัน
เนื่องจากคุณทำผิดสัญญากับทางโรงแรม ไงหล่ะซวยแล้ว ทำไงดี
เรา 3 คนนั่งสุมหัว คิดยังไงก็คิดม่ายออก เลยตัดสินใจว่าไปจากที่นี่ก็ได้ ช่างมัน
เลยไปเปลี่ยนตั๋วรถให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะไปสนามบินชิคาโก
เย้ เปลี่ยนตั๋วรถได้เรียบร้อย
ยังชิวได้อีกไหนๆๆก็จะออกจากโรงแรมแระ
ขอชิมบุฟเฟ่หน่อย มานจาอร่อยขนาดไหนกันปูตัวใหญ่มากกกกกกกกก ถึงมากที่สุด.....นี่แค่ก้ามนะกินกันจนพุงกางงง หลังจากกินเสร็จกลับมาก็เตรียมเก็บข้าวของบางส่วน
.............................
คืนนั้น เพื่อนๆๆเวิร์คด้วยกันก็เลยจัดปาร์ตี้ฉลองให้กับการเดินทางของพวกเรา
มันส์มากคืนนั้นเป็นคืนก่อนวันสงกรานต์
พวกเราเลยเล่นน้ำกันจนเมา
ฮ่าๆๆละไว้ในฐานที่เข้าใจ
.
.
.
พอวันรุ่งขึ้นเรา 3 คนก็เก็บข้าวของออกเดินทางจากโรงแรมไปยังชิคาโก
โดยมีคนขับรถมาส่งงงง ใจดีมากกก เค้าชื่อคาร์ล เป็นผู้ชายร่างใหญ่ใจดีเหลือเกินนนน
พอนั่งรถมาถึงสนามบินชิคาโก...และแล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

ต่อจากมะวาน

อะฮ่าๆๆ ในที่สุดก็ถึงแอลเอซะกะที่
อากาศหนาวมาก หนาวกว่าที่ลำปางอีก...

แต่เรา 3 คนมะได้เลือกทำงานที่แอลเอนะ


ที่เราเลือกๆๆกานคือที่ Wisconsin ชนบทมักมักกกกกกก
บรรยากาศดี น่าอยู่ ฮ่าๆๆ อันนี้ต้องติดตามตอนต่อไป.....


อยู่ที่แอลเอหนึ่งอาทิตย์ โดยการต้อนรับอย่าดีจากคุณป้าของเพื่อน


เราพักอยู่ที่อพาร์เมนต์ของป้ากฤชอยู่ทางเหนือของแอลเอใกล้ๆๆกะสถานีรถไฟที่จะเข้าเมือง
เป็นโอกาสดีที่จะได้ไปเที่ยวเล่นได้โดยใช้รถไฟฟฟฟฟ
อพาร์เมนต์ที่ไปพักมี 2 ห้องนอน 1 ห้องโถง
อยู่กันอย่างสบายมัก
คุณป้าดูแลพวกเราดีมากกกก
พาไปเที่ยวรอบเมืองไปทานข้าวววว โอ้คิดถึงแอลเอ

.
.
.
อยู่ได้สัปดาห์เดียวก็ต้องบินไปที่ชิคาโกต่อเพื่อที่จะไปวิสคอนซิน
ตอนขึ้นเครื่องจากแอลเอไปชิคาโก
ไม่คิดไม่ฝันว่า... ตอนไปถึงชิคาโก กระเป๋าโดนกรีดซะเละเรยยย
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด กระเป๋าเราโดนทุบอะมุมบุบเรยยย
ยังมะเท่าไรของเพื่อนเราเนี่ยสิโดนกรีดเป็นทางยาววววววเกือบจะรอบกระเป๋าแระ
บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ห้าล็อกกุญแจกระเป๋าเมื่อเดินทางมาเมกา ฮ่าๆๆ เค้ามีสุ่มตรวจอารายเนี่ยแหละ
สงสัยจะกัวคนไทยแอบเอาปลาร้ามากินที่เมกา
นั่งซ่อมกระเป๋ากานอยู่นาน เซ็งเป็ดมัก...ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ


จากนั้นเราก็เดินทางไปที่สถานีรถเกรย์ฮาวน์ ก็เหมือนรถทัวร์บ้านเราอะแหละ
ง้านนน ง้านนน เค้าข้างเมืองไทย
นั่งนานนนนมักกกกจนเมื่อยตูดเรยยยย


ให้ดูบรรยากาศข้างทางไปก่อน เหมือนเข้าป่าดีมะ
แต่ก็มีวิวสวยๆๆอยู่นะ
นี่ไงต้องยกผลประโยชน์ให้คนถ่ายรูป
.
.
ถึงที่หมาย...

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Work n Travel

ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม

เริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน EVA AIR เปลี่ยนเครื่องที่ไทเป
ว้าวววว ไปทั้งทีได้ไปหลายที่
แอบคิดในใจ ฮ่าๆๆ
ถึงไทเปแวะเปลี่ยนเครื่องและกินข้าวในสนามบิน
ของเราม่ายอร่อยเรยย เออช่ายลืมแนะนำเพื่อน
เราไปหะเพื่อนสนิท 2 คน คือ ต๋อมและนพ
ข้าวของต๋อมมานนน่ากินก่าของเราเยอะเลยแย่งมาน ฮ่าๆๆๆ
ม่ายเกรงใจมานแระ
คนกันเอง...
พอกินข้าวเสร์จก็ไม่มีอะไรทำ
ตามประสาเด็กมาเปิดหูเปิดตาก็เดินกันทั่วสนามบินไทเปเรยยยยย
ม่ายรู้คึกอะไรนักหนา ถ่ายรูปมานซะทุกอย่าง
เอามาให้ดูนิดหน่อยละกานเด๋วจาบอกว่าไร้สาระ
ถ่ายอารัยมาก็ม่ายรู้ ดูเองละกาน
ไร้สาระดีหมดไปกะ 1 วัน ที่ไม่มีอะไรทำตอนรอเปลี่ยนเครื่องเพื่อที่จะไปเมกา
ยังไม่ถึงเมกาเลย เหนื่อยซะก่อนและ เด๋วว่างๆๆมาอัพต่อละกานนะ . . .